สมดุลการผลิต Line Balancing

Line Balancing คือ

Line balancing เป็นกลยุทธ์ในการผลิตที่เกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงานและเครื่องจักรเพื่อให้สอดคล้องกับอัตราการผลิตกับ Takt Time ความสามารถของกระบวนการทำงานเพื่อให้การไหลเวียน (Flow) ค่อนข้างต่อเนื่องและสม่ำเสมอในกระบวนการผลิต สำหรับสายการผลิตหากเวลาในการผลิตเท่ากับ Takt Time สายการผลิตนั้นจะมีความสมดุลอย่างลงตัว หากเวลาการในผลิตมากกว่า Takt Time ควรจัดเรียงลำดับงานใหม่เพื่อแก้ปัญหาคอขวดที่เกิดขึ้น

ประโยชน์ของ Line Balancing

1.ลดความสูญเสียจากการรอคอย

การรอคอยถือเป็น waste หนึ่งใน 8 ประเภทของการผลิตแบบลีน  ตัวอย่างเช่น การรอคอยจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ปฏิบัติงานกำลังรอวัสดุหรือให้คนอื่นทำงานจนเสร็จ การหยุดทำงานของเครื่องจักร เป็นอีกตัวอย่างของการรอคอย การปรับสมดุลสายการผลิต (Line Balancing) ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้ปฏิบัติงานและเครื่องจักรทั้งหมดทำงานร่วมกันอย่างสมดุล ไม่ควรให้ผู้ปฏิบัติงานหรือเครื่องจักรทำงานหนักเกินไปหรือว่างเกินไป ด้วยการลดการหยุดทำงานของเครื่องจักร การปรับสมดุลสายการผลิต (Line Balancing) จะช่วยแก้ปัญหาการรอคอยได้

2.ลดปัญหาสินค้าคงคลัง

การผลิตที่มากเกินไปส่งผลให้มีสินค้าคงคลังมากเกินความจำเป็นถือเป็น waste อีกประเภทนึง การทำ Line Balancing ทำให้การผลิตเป็นมาตรฐานซึ่งหมายความว่า จะช่วยลดการสะสมหรือสินค้าคงคลังส่วนเกิน โดยการลดเวลาความสูญเปล่า  การปรับสมดุลสายการผลิต (Line Balancing) ทำให้มั่นใจได้ว่ามีการดำเนินงาน WIP อยู่และด้วยการเพิ่มเวลาในการผลิตให้ใกล้เคียงกับTakt Time  มากขึ้นจึงมั่นใจได้ว่าการส่งมอบของให้ลูกค้าจะตรงเวลาอย่างแน่นอน

3.ลดความแปรปรวนภายในสายการผลิต

การปรับสมดุลสายการผลิต (Line Balancing) ช่วยลดความแปรปรวนภายในสายการผลิต สายการผลิตที่สมดุลมีความเสถียรและยืดหยุ่นมากพอที่จะปรับให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงได้ ตัวอย่างเช่น การเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของลูกค้า หมายถึงการเปลี่ยนแปลงเวลาของ Takt Time  การดำเนินการสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วผ่านการปรับสมดุลสายการผลิต (Line Balancing) ผลของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสายการผลิตที่สมดุลนั้นคือ สามารถคาดการณ์ได้สำหรับการปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับในการเพิ่มอัตราการผลิต

4.ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มผลกำไร

การสร้างสมดุลของไลน์ผลิตที่สมบูรณ์แบบ ช่วยให้พนักงานและเครื่องจักรที่ทำงานกันได้อย่างลงตัว เครื่องจักรทั้งหมดใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เรียกอีกอย่างนึงว่ากำลังคนและกำลังการผลิตของเครื่องจักรนั้นมีประสิทธิภาพสูงสุดของกระบวนการผลิต ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตน้อยลงและผลกำไรที่มากขึ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *