6 BIG LOSSES ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประสิทธิภาพของเครื่องจักร และ6 BIG LOSSES นี้จะมีความสําคัญเป็นอย่างยิ่งในเสาแรกของกิจกรรม TPM นั้นคือ กิจกรรมการ ปรับปรุงเพื่อลดความสูญเสีย การเก็บบันทึกความสูญเสียดังกลาวนี้ จะใชเพื่อการคํานวณค่า ประสิทธิผลโดยรวมของเครื่องจักร(OEE) ความสูญเสียหลักที่สามารถแบ่งออกได้เป็น 6 ลักษณะ (6 BIG LOSSES) คือ
1.ความสูญเสียที่เกิดจากการขัดข้องของเครื่อง (BREAKDOWN LOSSES) เป็นความสูญเสียที่เกิดขั้นจากการขัดข้องของตัวเครื่อง หรือการหยุดเครื่อง โดยไม่มีการวางแผนการหยุดล่วงหน้า การบันทึกความสูญเสียประเภทนี้ควรจะต้องหยุดล่วงหน้า การบันทึกความสูญเสียประเภทนี้ควรจะต้องระบุลักษณะของการหยุดด้วย เพื่อที่จะนำไปวิเคราะห์ได้ตรงประเด็น ตัวอย่างของความสูญเสียประเภทนี้ ได้แก่
* เครื่องหยุดเดินกะทันหัน เนื่องมาจาก เช่น ลูกปืนแตก สายพานขาด มอเตอร์ไหม้ เป็นต้น
* การหยุดเครื่องกะทันหัน เนื่องจากการ เปลี่ยนชิ้นส่วนเครื่องจักร หรือการตรวจสอบฟื้นฟูสภาพของเครื่องนอกแผนงาน เช่น ขณะทำการผลิตเกิดมีเสียงดังของลูกปืน เป็นต้น เพราะว่าถ้าเครื่องจักรต้องหยุดลงโดยไม่สามารถทำการผลิดได้ จะมีความหมายอะไรอีกเล่าที่จะไปลดความสูญเสียตัวอื่น
2.ความสูญเสียที่เกิดจากการปรับตั้งและปรับแต่ง (SET UP AND ADJUSTMENT LOSSES) เป็นความสูญเสียที่เกิดจากการเปลี่ยนรุ่นการผลิตแต่ละครั้ง ซึ่งในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากการผลิตเปลี่ยนไปผลิตแบบล็อตเล็กๆ (SMALL LOT PRODUCTION) มากขึ้นและความต้องการผลิตภัณฑ์ของลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น ทำให้เราจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนการผลิตบ่อยครั้งขึ้น
3.ความสูญเสียที่เกิดจากการสูญเสียความเร็ว (SPEED LOSSES) เป็นความสูญเสียที่เกิดจากความเร็วจริงที่ใช้ในการผลิตต่ำกว่าความเร็วตามมาตรฐานที่กำหนดของเครื่อง หรือของแต่ละผลิตภัณฑ์ ส่งผลให้ผลิตสินค้าได้น้อยกว่าแผนตามระยะเวลาที่กำหนด ตัวอย่างของความสูญเสียประเภทนี้ในด้านอุตสาหกรรม ได้แก่
* ในกระบวนการที่คนทำต้องทำงานกับเครื่อง เช่น ป้อนชิ้นงานเข้าเครื่อง เมื่อเกิดความเมื่อยล้า ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดการสูญเสียความเร็วได้
* ปัญหาของบรรจุภัณฑ์ ทำให้เราต้องลดความเร็วในการผลิต เวลาที่สูญเสียไปกับความสูญเสียประเภทนี้เก็บข้อมูลค่อนข้างยาก เรามักจะใช้การเปรียบเทียบของเวลาที่ใช้ในการปฏิบัติงานจริงกับที่วางแผนไว้ ซึ่งคำนวณจากเวลามาตรฐานการผลิต
4.ความสูญเสียที่เกิดจากการหยุดเล็กๆ น้อยๆ และการเดินเครื่องตัวเปล่า (MINOR STOPPAGE AND IDLING LOSSES) เป็นความสูญเสียที่เกิดจากเครื่องมีการขัดข้อง ทำให้เครื่องปิดฉลากหยุดการผลิตเป็นช่วงสั้นๆ จากประสบการณ์ ความสูญเสียประเภทนี้มีอยู่มากในการผลิตจริง เพราะถึงแม้หยุดเล็กๆ น้อยๆ แต่พบว่าในวันหนึ่งๆเกิดบ่อยครั้ง เมื่อรวมเวลาที่หยุดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งวัน อาจพบว่ามีมากกว่าการหยุดเนื่องจากการขัดข้องของเครื่องจักรเสียอีก ตัวอย่างความสูญเสียประเภทนี้ เช่น
* พนักงานป้อนชิ้นงานไม่ต่อเนื่อง หรือการขาดวัตถุป้อนเข้าเครื่อง ทำให้เครื่องเดินตัวเปล่าในระยะเวลาสั้นๆ
5.ความสูญเสียที่เกิดจากการผลิตของเสียและการแก้ไขงาน (DEFECT AND REWORK) เป็นความสูญเสียที่เกิดจากเครื่องผลิตสินค้าไม่ตรงตามข้อกำหนดของลูกค้า ความสูญเสียประเภทนี้ โรงงานส่วนใหญ่จะมีการจดบันทึกกันอยู่แล้ว โดยการจัดเก็บข้อมูลความสูญเสียประเภทนี้ ควรจะบันทึกแยกตามลักษณะของการเสีย และแยกตามชนิดของเครื่องในกรณีที่เป็นกระบวนการผลิตแบบต่อเนื่อง เพื่อที่จะสะดวกในการนำเอาข้อมูลไปวิเคราะห์ต่อไป
6.ความสูญเสียที่เกิดขึ้นช่วงเริ่มต้นผลิต (START UP LOSSES) เป็นความสูญเสียของผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากเครื่องในช่วงเริ่มต้นผลิต เช่น เริ่มเดินจากการหยุดประจำสัปดาห์ การเดินเครื่องปิดฉลากหลังจากการหยุดซ่อม เป็นต้น ความสูญเสียประเภทนี้เป็นความสูญเสียด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์ จะมีความสูญเสียมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงานของเครื่อง
อ้างอิง http://www.bigq.co.th/article_detail.php?id=4